อีกหนึ่งโรคเรื้อรังยอดฮิตติดชาร์ตที่ใครได้ยินชื่อเป็นต้องรู้จักแต่ไม่เคยคิดที่อยากจะเป็นเลยซักครั้ง เนื่องจากพอเป็นแล้วจะรู้สึกว่าเป็นโรคที่ก่อให้เกิดความทรมานมากๆ และช่วงระหว่างรักษาริดสีดวงจะเป็นช่วงที่ใช้ชีวิตลำบากขึ้นไปอีกระดับ โดยอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินและการขับถ่ายเป็นส่วนใหญ่ แต่ใครจะรู้บ้างว่า เรื่องพฤติกรรมการเลือกกินอาหาร ก็ส่งผลถึงการรักษาด้วยเหมือนกันว่า อาการจะดีขึ้นหรือแย่ลง เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นริดสีดวงระยะไหน อยากทราบว่า เป็นริดสีดวงทำไงหาย หรือไม่ได้เป็นแต่กำลังหาแนวทางการป้องกันไม่ให้ริดสีดวงมาย่างกราย เราขอแนะนำให้คุณลองอ่าน “7 อาหารต้องห้าม สำหรับคนที่เป็นริดสีดวงทวาร”
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับริดสีดวงทวาร
โรคริดสีดวง เป็นโรคที่มีอาการผิดปกติภายในช่องท้อง เมื่อถ่ายอุจจาระอาจมีเลือดไหลออกมาจากทวารหรือเคลือบอุจจาระออกมาในขณะถ่ายอุจจาระหรือหลังจากถ่ายอุจจาระได้ เนื่องจากอุจจาระเกิดการเสียดสีกับเส้นเลือดตรงก้อนเนื้อริดสีดวงที่โป่งพอง ทำให้มีอาการเจ็บปวดเมื่อขับถ่าย หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีการเบ่งถ่ายอุจจาระโดยใช้ระยะเวลานานบ่อยๆ, ใช้ยาสวนอุจจาระหรือยาระบายบ่อย, ทานอาหารที่มีกากใยน้อย, ตั้งครรภ์, หรืออาจเกิดจากบางโรคทำให้ส่งผลกระทบต่อร่างกายทำให้เกิดอาการเป็นริดสีดวงทวาร เช่น ตับแข็ง มะเร็งลำไส้ใหญ่ ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรเมื่อเราทราบว่าเราเป็นริดสีดวงทวารก็ควรที่จะรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาริดสีดวงและหาวิธีรักษาริดสีดวงที่เหมาะสมต่อไป
วิธีรักษาริดสีดวง
ในกรณีที่ค่อนข้างรุนแรงอาจจะมีวิธีการรักษาริดสีดวงที่จำเป็นจะต้องพึ่งคุณหมอ ด้วยการฉีดยาให้หลอดเลือดที่ขยายตัวออกมาเป็นก้อนริดสีดวงค่อยๆ หดตัวลงไป, ใช้ยางรัดเพื่อตัดการไหลเวียนเลือดไม่ให้ขยายตัว, อาจใช้วิธีการอื่นๆ เช่น เลเซอร์, ใช้รังสีความร้อน หรือ ผ่าตัด ตามแต่ละกรณีซึ่งหากปล่อยให้เป็นกรณีที่ค่อนข้างรุนแรงก็จะทำให้รักษายากขึ้น ตลอดจนค่ารักษาก็จะสูงขึ้นด้วย แต่หากใครที่เป็นริดสีดวงแบบไม่ค่อยรุนแรงสามารถดูแลด้วยตัวเองและรีบทำการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ได้ โดยหลักๆ จะดูแลในเรื่องของอาหารเป็นสำคัญ นอกจากนั้นก็อาจจะควบคู่ไปกับการทาครีมทาริดสีดวงร่วมกับทานยาตามแพทย์สั่งก็สามารถทำให้ริดสีดวงหายได้โดยไม่ต้องเสียค่ารักษาแพงๆ
อาหารทั้ง 7 อย่างที่คนเป็นริดสีดวงทวารไม่ควรทาน
อย่างที่บอกไปแล้วว่า สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นริดสีดวงขั้นหนักจนต้องพึ่งการแพทย์ คุณสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นควบคู่กับการทายารักษาริดสีดวงตามคำแนะนำหรือคำสั่งของแพทย์ได้ ซึ่งเราได้ไปหาข้อมูลกันมาแล้วว่า คนที่เป็นริดสีดวงทวารไม่ควรทานอะไรในช่วงระหว่างรักษาริดสีดวง สำหรับคนที่อยากหายไวแบบไม่ต้องกังวลใจว่าจะโดนสั่งไปผ่าตัดวันไหนก็ไม่รู้ เราอยากให้คุณจดลิสต์อาหารเหล่านี้ไว้ และอย่าได้ไปเผลอทานในช่วงเป็นริดสีดวง เนื่องจากเป็นอาหารแสลงสำหรับคนเป็นริดสีดวง
- ในกลุ่ม “เนื้อสัตว์” : ควรหลีกเลี่ยงจำพวกเครื่องในสัตว์ทุกชนิด หรือ เนื้อสัตว์ที่มีลักษณะย่อยยาก เช่น เนื้อวัว, ควาย, จระเข้ ฯลฯ
- ในกลุ่มหมวดหมู่ “ผัก” : หลักๆ จะเป็นพวกหน่อไม้ดองทุกชนิด, กุยฉ่าย, สะตอ, บีทรูท, ชะอม, มะระ, กระเฉด, ตำลึง ฯลฯ ก่อนนำไปกินหรือปรุงอาหารทุกครั้งควรที่จะทำความสะอาดให้เรียบร้อยและผ่านการทำให้สุก ยิ่งถ้าเป็นกะหล่ำปลีดิบ หรือแครอทดิบก็ควรห่างไปให้ไกล
- ในกลุ่มหมวดหมู่ “ผลไม้” : บางชนิดที่อาจส่งผลถึงระบบย่อยอาหาร และการขับถ่าย เช่น ทุเรียน, ละมุด, สาเก, ลำไย, ขนุน, เงาะ, ลิ้นจี่, สัปปะรด, ลองกอง, มะไฟ, มะยม, มะปราง, สละ, ขนุน, ละมุด, มะขามเปียก, น้อยหน่า, เสาวรส ฯลฯ
- ในกลุ่มอาหารที่ผ่านการแปรรูป : ส่วนที่ควรอยู่ห่างเป็นพิเศษก็คือ พวกของหมัก ของดอง ปลาร้า ปลาส้ม หอยดอง ปูหลน ปลาเจ่า แหนม กะปิ ชีส เบค่อน ฯลฯ
- ในกลุ่มอาหารทะเล : แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารทะเลทุกชนิดระหว่างรักษาริดสีดวง
- ในกลุ่มเครื่องดื่ม : พวกกลุ่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ พวกนมจากสัตว์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ในกลุ่มรสชาติ : หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเผ็ดจัดไม่ควรกิน
นอกเหนือจากการหลีกเลี่ยงอาหารทั้ง 7 นี้แล้ว ยังควรที่จะทานยาและอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาริดสีดวง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่ายไม่ใช้ยาสวนเกินความจำเป็น ครีมทาริดสีดวง เสมือนเป็นยาสมุนไพรที่ช่วยยับยั้งริดสีดวง เนื่องจากทำจากสมุนไพรที่มีสรรพคุณกำจัดริดสีดวง มากกว่า 7 ชนิด ทั้ง ตี้หวี้ (Sanguisorba Officinalis Root Extract), จินอิ๋งฮัว (Lonicera Japonica Root Extract), หองฮัว (Carthamus Tinctorius Flower Root Extract), ชวงซีออง (Ligusticum Chuanxiong Root Extract), ปิงเปี่ยน (Borneol), เฟืองล่า (Cera Alba), จื้อจื่อ (Gardenia Jasminoides Fruit Extract) เพื่อกำจัดพิษร้อน ลดอาการแสบปวด และเลือดออก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และสามารถทำให้โรคริดสีดวงทวารหนักหายได้เมื่อมีการใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายในการเข้ารักษากับแพทย์, ประหยัดเวลา ไม่ต้องทนทรมานไปกับการรักษาริดสีดวงนานๆ